วิธีการเตรียมตัวผ่อนบ้าน บริหารดอกเบี้ยกู้บ้านให้หมดเร็ว

เริ่มโดย waanbotan_, ก.พ 13, 2024, 11:00 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

waanbotan_

เมื่อเราเริ่มทำงานมาสักพัก เป้าหมายของบางคนอาจจะเป็นบ้าน สิ่งของ หรือแม้แต่รถ บ้านหนึ่งหลังจะจ่ายด้วยเงินจำนวนก้อนโตคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการเป็นเจ้าของบ้าน เพราะใครจะไปรู้ล่วงหน้าว่าจะมีความต้องการใช้เงินทำสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นวันไหน การผ่อนบ้านกับธนาคารด้วยการกู้สินเชื่อซื้อบ้านนั้น ถือว่าน่าสนใจมาก

   การ ผ่อนบ้านกับธนาคาร หมายถึง การยื่นเอกสารเพื่อขอ กู้เงินทำบ้าน กับธนาคาร โดยผู้กู้ให้สัญญาว่าจะมีการชำระหนี้ ดอกเบี้ยบ้าน เป็นงวด ๆ เป็นประจำทุกเดือน ซึ่งเงินแต่ละงวดที่จ่ายให้กับธนาคารจะแบ่งเป็นการชำระหนี้เงินต้นที่กู้ยืมมากับการชำระหนี้ ดอกเบี้ยกู้บ้าน ไปจนครบจำนวนเงินที่ขอกู้ไว้กับธนาคาร จากนั้นจึงจะสามารถโอนชื่อเจ้าของบ้านจากชื่อธนาคารเป็นชื่อของผู้กู้ได้ วิธีนี้เป็นวิธีการที่ดีสำหรับคนที่มีรายได้ประจำ เพราะสามารถแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งออกมา คำนวณสินเชื่อบ้าน เพื่อชำระหนี้ในแต่ละเดือนได้  โดยวิธีผ่อนบ้านให้หมดเร็วมีอะไรบ้างมาดูกัน

จ่ายค่างวดกับธนาคารเกินกว่าจำนวนที่กำหนดต่อเดือนทุกงวด การชำระหนี้เงินต้นกับการชำระ ดอกเบี้ยบ้าน นั่นหมายถึงแต่ละครั้งที่มีการชำระเงินที่มากกว่าที่ต้องจ่ายประจำทุกเดือน จำนวนที่เกินมานั้นจะถูกนำไปหักออกจากเงินต้นที่กู้ยืมมา ส่งผลให้หนี้เงินต้นจะค่อย ๆ ลดลงเป็นลำดับ เช่น ต้องผ่อนหนี้เดือนละ 10,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี ถ้าสามารถชำระหนี้กับธนาคารได้เดือนละ 20,000 บาท ก็จะทำให้เวลาผ่อนหนี้ลดลงเหลือ 9-10 ปี เท่านั้น

รีบโปะเพิ่มในช่วงที่ อัตราดอกเบี้ยบ้าน ต่ำ ตามปกติแล้วเมื่อมีการขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารจะคิด อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้บ้าน ในช่วง 3 ปีแรกต่ำสุด นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่หากมีการจ่ายค่างวดบ้านได้มากกว่าจำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่องวดในแต่ละเดือน จะส่งผลให้เงินต้นที่กู้ยืมมามีจำนวนลดลงเป็นลำดับ แถมยังจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติอีกด้วย ส่วนในปีต่อ ๆ ไปนั้นหากยังมีกำลังทรัพย์เพียงพอก็ให้ชำระค่างวดมากกว่าปกติต่อไป จะกลายเป็นว่าเงินต้นก็ค่อย ๆ ลดลง และผ่อนบ้านสั้นกว่าเดิมได้ด้วย

การปรับโครงสร้างหนี้หลังจากปีที่ 3 ของการชำระหนี้สินเชื่อบ้าน ปกติแล้วดอกเบี้ยบ้านจะเริ่มลอยตัวเมื่อผ่านระยะต้นมา ทำให้ค่างวดที่จ่ายไปเป็นการชำระดอกเบี้ยเสียส่วนใหญ่โดยที่เงินต้นไม่ได้ลดลงมากนัก โดยมีอยู่ 2 วิธีคือ
รีไฟแนนซ์ (Refinance) หมายถึงการไปกู้ยืมเงินจากธนาคารใหม่เพื่อนำเงินมาโปะหนี้กับธนาคารที่เดิมแล้วผ่อนชำระหนี้กับที่ใหม่แทน ซึ่งธนาคารใหม่อาจจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่เดิมก็ได้ จึงเป็นทางเลือกที่ทำให้ลดภาระการผ่อนบ้านได้มากขึ้น
รีเทนชัน (Retention) หมายถึงการขอปรับอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมสำหรับผู้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีมาโดยตลอด ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายกว่าการทำรีไฟแนนซ์

แต่ไม่ว่าจะวิธีไหน สิ่งที่สำคัญคือเราควรคำนวณสินเชื่อบ้าน และมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้และต้องมีความแม่นยำในการ คำนวณสินเชื่อค่าบ้าน ด้วย  พยายามมีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ด้วย